4 เรื่องสำคัญที่คนอยากซื้อบ้านใหม่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านหลังแรก

เรื่องบ้านเกี่ยวพันกับเรื่องเงิน เป็นสินทรัพย์มูลค่าสูงที่หลายคนตั้งเป้าหมายไว้ แม้การมีบ้านสักหลังจะฟังดูเป็นเรื่องยาก แต่หากวางแผนให้ดี มีวินัยทางการเงิน และศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วน การมีบ้านในฝันเป็นของตัวเอง ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน และในบทความนี้ Belmont มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการซื้อบ้านใหม่มาแนะนำ เพื่อให้การซื้อบ้านใหม่เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิม

4 เรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านใหม่

1. เลือกซื้อบ้านใหม่ที่ตอบโจทย์

การซื้อบ้านใหม่ที่ตอบโจทย์ ไม่ได้มาจากความชื่นชอบในสไตล์ของบ้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงงบประมาณ (สำคัญที่สุด), จำนวนสมาชิกในบ้าน, ความสะดวกในการเดินทาง, รวมถึงเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น ใกล้ที่ทำงาน, ใกล้ตลาด, ใกล้ห้างสรรพสินค้า หรือโรงพยาบาลต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบและ Condition ของแต่ละบุคคล จากนั้นจึงเปรียบเทียบบ้านของแต่ละโครงการ เช่น วัสดุ, ระบบรักษาความปลอดภัย, ส่วนกลาง เพื่อให้ได้สิ่งที่เหมาะสมกับครอบครัวและตัวเรามากที่สุด

2. วางแผนการเงินซื้อบ้านใหม่

เมื่อได้บ้านที่ถูกใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนทางการเงิน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่คนอยากซื้อบ้านใหม่จำเป็นที่จะต้องศึกษาและพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะบ้านเป็นทรัพย์สินมูลค่าสูงที่อาจสร้างภาระระยะยาวให้กับผู้เป็นเจ้าของ ก่อนซื้อบ้านใหม่จึงต้องตรวจสอบความพร้อมในการผ่อนให้ชัดเจน โดยคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งในส่วนของค่าวางดาวน์ ค่างวดบ้าน ค่าธรรมเนียม ค่าตกแต่ง แล้วพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าในเวลานี้เราสะดวกชำระมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจำนวนหนี้สินทั้งหมดไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน 

3. เตรียมความพร้อมเรื่องสินเชื่อซื้อบ้านใหม่

ก่อนทำเรื่องขอสินเชื่อซื้อบ้านใหม่ ควรศึกษาโปรโมชันจากหลาย ๆ ธนาคาร แล้วเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เช็กเงื่อนไขการผ่อนในระยะยาว ระยะเวลาในการผ่อน วงเงินสินเชื่อ รวมถึงคำนวณอัตราผ่อนต่อเดือน เพื่อหาสินเชื่อที่ตอบโจทย์กับสภาพคล่องของเรา ในขณะเดียวกัน ควรเช็กเครดิตบูโร และพยายามสะสางหนี้สินต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อลดภาระหนี้ และเพิ่มโอกาส “กู้ผ่าน”

วิธีคิดดอกเบี้ยบ้าน เมื่อต้องการซื้อบ้านใหม่

• สูตรคำนวณดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด : ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวดนั้น) ÷ จำนวนวันใน 1 ปี

• สูตรคำนวณยอดเงินรวมเมื่อจบงวด : ยอดเงินรวมเมื่อจบงวด = เงินต้นคงเหลือ + ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด (จากข้อ 1)

• สูตรคำนวณเงินต้นคงเหลือ : เงินต้นคงเหลือ = ยอดเงินรวมเมื่อจบงวด (จากข้อ 2) – ค่างวดต่อเดือน

4. เตรียมเอกสารกู้เงินซื้อบ้านใหม่ให้พร้อม

ธนาคารจะขอหลักฐานและเอกสารในการกู้เงินซื้อบ้านใหม่ 3 หมวดด้วยกัน ประกอบด้วย

หมวดที่ 1 เอกสารส่วนบุคคล 

สำหรับการกู้ซื้อบ้านใหม่

• บัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ / บัตรรัฐวิสาหกิจ

• สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า / ใบมรณะบัตร (คู่สมรส) (ถ้ามี)

• สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)

• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)

หมวดที่ 2 เอกสารทางการเงิน 

กรณีเจ้าของกิจการ/ฟรีแลนซ์ ต้องการกู้ซื้อบ้านใหม่

• สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน / หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ (พร้อมเอกสารฉบับจริง)

• สำเนาทะเบียนการค้า / ทะเบียนบริษัท / ห้างหุ้นส่วน

• หลักฐานการเสียภาษีเงินได้

• รูปถ่ายกิจการ

• สำเนาใบประกอบวิชาชีพ

กรณีพนักงานประจำ ต้องการกู้ซื้อบ้านใหม่

• ใบรับรองเงินเดือน / หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ

• สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน

• สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน

หมวดที่ 3 เอกสารหลักประกัน 

สำหรับการกู้ซื้อบ้านใหม่

• สำเนาจะซื้อจะขาย / สัญญาวางมัดจำ 

• หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร

• สำเนาโฉนดที่ดิน / นส.3ก / หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด / อช.2 ทุกหน้า

• ใบอนุญาตปลูกสร้าง / ต่อเติม

• แบบแปลน (กรณีปลูกเอง)

• ใบประมาณการปลูกสร้าง / สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง

แม้การซื้อบ้านใหม่อาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วการมีบ้านในฝันไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งสำคัญคือต้องมี “วินัยทางการเงิน” คำว่าวินัยทางการเงิน หมายถึง ความสามารถในการจัดการเงินของตัวเองอย่างมีเป้าหมายและมีระบบ เพื่อให้ออมเงินได้ตามเป้าหมาย และควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้เกินตัวได้นั่นเอง 

สำหรับชาวเชียงใหม่ที่วางแผนซื้อบ้านใหม่ และกำลังมองหาบ้านในฝันที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ ความสะดวกสบาย และสไตล์อันโมเดิร์น Belmont Resident ซึ่งพัฒนาโดย Rochalia Development โครงการขายบ้านหรูเชียงใหม่ อาจทำให้บ้านในฝันของคุณสมบูรณ์แบบได้มากขึ้น